BUS 7017 : Business Strategy Game - Sales Forecast
BUS 7017 : Business Strategy Game : The Business Strategy Game (bsg-online.com)
DECISION ENTRIES : Branded Sales Forecast
พยากรณ์ยอดขายหรือทำนายยอดขาย เพื่อทราบความต้องการลูกค้าว่าจะต้องผลิตเท่าไรให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า Demand สามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยการเพิ่มคุณค่าและลดราคา แต่ว่าต้องมองกลับมาตัวเอง ว่าตัวเองสามารถที่จะผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าหรือไม่เพราะ resource เรามีจำกัด
Sale Forecast เกี่ยวข้องกับการตลาด ว่าจะใช้เครื่องมือการตลาดตัวไหนมาช่วยดึงยอดขายเรา
การ Forecast จะเป็นข้อมูลที่แต่ละกลุ่มเห็นเฉพาะ ของบริษัทตัวเองเท่านั้นไม่สามารถเห็นของบริษัทอื่นๆ มาดูกันว่าในส่วน Sale Forecast ต้องทราบอะไรบ้าง
Projected Year 11 Performance : ผลประกอบการของบริษัทเราใน Y11 คู่แข่งจะไม่เห็น ในกรอบนี้จะบอกเราได้ว่าบริษัทผลประกอบการไปในทิศทางใด ในปี Y11 และเป็นกี่ % เมื่อเทียบกับ Y10 Forecast ออกมาเป็นบวก ถ้า Process แล้วผลอาจไม่ออกมาตาม Forecast ก็ได้
ตัวชีวัดในเกมส์นี้ประกอบด้วย:
- Earnings Per Share : กำไรต่อหุ้น หรือ EPS [ยิ่งสูงยิ่งดี]
- Return On Equity : ผลตอบแทนส่วนของเจ้าของ หรือ ROE [ยิ่งสูงยิ่งดี]
- Credit Rating : อันดับความน่าเชื่อถือขององค์กร ขึ้นอยู่กับสภาพคล่อง และความสามารถในการทำกำไร ถ้าทำกำไรได้มาก อันดับความน่าเชื่อถือก็จะดีขึ้น
- Image Rating : ภาพลักษณ์องค์กร วัดจากสายตาลูกค้า เป็นอย่างไร
- Stock Price : ราคาหุ้น
Other Measures: เป็นส่วนที่จำเป็นมากจะเป็นตัวบอกสถานะของบริษัทในอนาคตจะเป็นอย่างไร
- Net Revenues : รายได้สุทธิ
- Net Profit : กำไรสุทธิ
- Ending Cash : เงินสดคงเหลือปลายงวด
Sales Forecast ทำการตลาดผ่านอินเตอร์เน็ต
Factors Affecting Wholesale Sales
Sales Forecast ทำการตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย ค้าปลีก ค้าส่ง
ตลาดที่สามารถส่งสินค้าไปขายได้มี 4 ตลาดคือ North America, Europe-Africa, Asia-Pacific และ Latin America สามารถใส่ค่าตัวเลขต่างๆได้ แนะนำให้ใส่ในกรอบสีแดง หรือ Proposed Marketing Effort ส่วนกรอบสีน้ำเงิน เป็นค่าเฉลี่ยอุตสหกรรม หรือ Ind. Avg. ปีต่อไปจะเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับคู่แข่งขันเป็นตัวกำหนด เช่นทุกกลุ่มใช้ราคาเป็นตัวแข่งขันค่า Ind. Avg. ก็จะเปลี่ยนตามราคาทำให้ควบคุมยาก จึงไม่แนะนำให้ใช้กรอกข้อมูล เพื่อกำหนดค่าของบริษัท ฉนั้นช่องขวากรอบน่ำเงินไม่ต้องไปเปลี่ยนค่าตัวเอง เอาไว้ดูเปรียบเทียบกับข้อมูลที่เราจะใส่ตัวเลขในด้านซ้ายกรอบสีแดง เพื่อจะได้รู้ว่าควรจะใส่อะไรทำให้ได้ผลดีที่สุดและเพิ่มยอดขายให้เรา
สิ่งสำคัญที่สุดในหน้า Sale Forecast คือการประมาณการขอดขาย ทำให้เราทราบ demand หรือตัวเลขความต้องการของลูกค้า ในแต่ละทวีปดูจาก Y11 Production Need to Achieve Sales Forecast ตรงนี้ก็จะบอกให้เราทราบว่าความต้องการในแต่ละทวีปกี่คู่ จากข้อมูล ณ เวลานี้ North America ต้องการรองเท้า 1,432 คู่ Europe-Africa ต้องการรองเท้า 1,432 คู่ Asia-Pacific ต้องการรองเท้า 991 คู่ และ Latin America ต้องการรองเท้า 991 คู่ ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกทวีปต้องการรองเท้าเท่ากันขึ้นอยู่กับเราว่าจะโฟกัสที่ตลาดไหนเป็นหลัก ดังนั้นความต้องการเปลี่ยนแปลงไปได้
ความต้องการของลูกค้าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในแต่ละทวีปเปลี่ยนแปลงได้ไหม? ถ้าได้ได้จากอะไร?
ขึ้นอยู่กับ Factors Affecting Wholesale Sales คือปัจจัยที่มีผลต่อยอดขายคือเครื่ิองมือที่เรานำมาใช้เรียกว่าเครื่องมือทางการตลาดมีอยู่ด้วยกัน 9 ตัว คือ
1) Wholesale Price : ราคาขาย เช่น ตลาด North America ปัจจุบันราคาขาย 48.00 ($/pair) ความต้องการเท่ากับ 1,432 pairs
ราคา ($/pair)
48.00
40.00
50.00 ความต้องการ(pairs)
1,432
2,168
1,348 ผลที่ได้
-
เพิ่มขึ้น
ลดลง
ดังนั้นการปรับราคาขึ้นหรือลงมีผลต่อความต้องการของลูกค้า
2) S/Q Rating : Sign & Quality หมายถึงคุณภาพสินค้าในเกมส์นี้จะใช้หน่วยเป็นดาว(stars) คือ 0 - 10 ดาว โดย 10 ดาว หมายถึง premium , 0 ดาวแย่สุด ถ้าจะผลิตสินค้า premium สิ่งที่ตามมาคือต้นทุน (cost of quality) ฉะนั้นต้นทุนก็จะสูงกว่าทีมอื่นๆ ถ้าจะแข่งขันด้วยคุณภาพสินค้ามีคุณภาพสูงขึ้น แต่ต้นทุนก็จะสูงขึ้นด้วย แต่ถ้าเราผลิตสินค้าคุณภาพดีความต้องการของลูกค้าก็จะมากขึ้น ช่อง S/Q Rating : ก็จะให้เราเลือกใส่คุณภาพสินค้าที่ต้องการ
เช่น S/Q Rating จาก 5 ดาวน เป็น 8 ดาว คุณภาพสินค้ามีคุณภาพสูงขึ้น ความต้องการของลูกค้าก็จะมากขึ้น (ตัวเลขขึ้นสีแดงต้องแก้ไข)
3) Models Available : รูปแบบรองเท้ากีฬา ระบบเกมส์กำหนดรูปแบบเริ่มต้นไว้ที่ 200 รูปแบบ สามารถปรับรูปแบบได้ต่ำสุดคือ 50 รูปแบบ และสูงสุดคือ 500 รูปแบบ ถ้ารูปแบบเพิ่มมากขึ้นความต้องการเพิ่มมากขึ้น แต่ Producting Line ก็ต้องมีมากตามซึ่งเป็น Cost ที่จะเกิดขึ้น ต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้นจะสูงกว่าทีมที่ใช้รูปแบบน้อยกว่า
4) Advertising Budget : งบประมาณโฆษณาประชาสัมธ์ โฆษณาผ่านโทรทัศน์หรือสื่อต่างๆ ค่าเริ่มต้น Advertising Budget คือ $7000 ถ้าไม่ลงโฆษณาเลยคือ 0 หรือโฆษณามากสุดคือ $25,000
ถ้าทุ่มงบโฆษณามากจะขายได้มากขึ้นเป็นการสร้าง Brand Awareness ให้ลูกค้า ดังนั้นถ้าเพิ่มงบโฆษณามาก ค่าใช้จ่ายมากขึ้น
5) Rebate Offer : ส่วนลดทางการตลาดต่อสินค้าแต่ละชิ้น หมายถึง การสะสมแต้มแลกของหรือเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าชิ้นต่อไป เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าเรามากขึ้น จากตัวอย่างเกมส์ซื้อรองเท้ากีฬาราคา $48.00 ให้ส่วนลด $3.00 สำหรับในเกมส์นี้สามารถกำหนดค่าส่วนลดทางการตลาดได้ตั้งแต่ $0 ถึง $10 ต่อคู่ ถ้าให้ส่วนลดกับลูกค้ามากขึ้นความต้องการลูกค้าจะมากขึ้นก็จะขายได้มากขึ้น แต่ Margin ก็จะลดลง
6) Retail Outlets : จำนวนหน้าร้านหรือสาขา จำนวนสาขา maximum ระบบเป็นผู้กำหนดมาให้ เราสามารถปรับจำนวนสาขาได้เพียงลดลงเท่านั้น ไม่สามารถปรับให้เพิ่มได้ ถ้าจะปรับให้จำนวนสาขาเพิ่มมาขึ้นทำได้ 2 วิธีคือ
1. ทำกำไรให้เยอะๆ ขายให้ได้เยอะๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือมีกระแสเงินสดมากขึ้นก็ไปขยายสาขาได้
2. เพิ่มงบสนับสนุนร้านค้าปลีกมากขึ้น (Retailer Support) อัดส่วนนี้ไปมากๆจำนวนสาขาก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ฉนั้นงบสนับสนุนร้านค้าปลีกก็เพิ่มจำนวนความต้องการของลูกค้าได้เช่นกัน
7) Retailer Support : งบสนับสนุนร้านค้าปลีก ถ้าพิ่มงบสนับสนุนร้านค้าปลีกมากขึ้น จำนวนความต้องการของลูกค้าได้เช่นกัน ใช้ร่วมกับ Retail Outlets ดังนั้นหาต้องการให้มีสาขาจำนวนมาก เพื่อปิดล้อมคู่แข่ง ต้องทำกำไรให้เยอะๆ และ เพิ่ม Retail Support ให้มากขึ้น
8) Delivery Time : ระยะเวลาในการขนส่งรองเท้ากีฬาให้กับลูกค้า ในเกมส์มีให้เลือกส่ง 4 รูปแบบ คือ ส่งภายใน 1 สัปดาห์ ส่งทางอากาศ (air mail) ถึงลูกค้าเร็วสุด แต่ Expend ค่าขนส่งแพงสุด ถึงมือลูกค้าเร็วพอใจต้องการสินค้ามากขึ้น
ส่งภายใน 2 สัปดาห์ ส่งทางบรรทุก ถึงลูกค้าเร็วรองลงมา แต่ Expend ถูกกว่าส่งทางอากาศ
ส่งภายใน 3 สัปดาห์ ส่งทางรถไฟ ถึงลูกค้าเร็วรองลงมา แต่ Expend ถูกกว่าส่งทางรถบรรทุก
ส่งภายใน 4 สัปดาห์ ส่งทางเรือ ถึงลูกค้าช้าสุด แต่ Expend ค่าขนส่งต่ำสุด
9) Celebrity Appeal : เซเลบ ** อย่าไปใส่ตัวเลขใดๆ (0) ** เพราะถ้าใส่ตัวเลขลงไปเป็นการฆ่าทีมตัวเอง Celebrity Appeal ได้มาจากการประมูลในเมนู Bids for Celebrity Endorsement Contracts ถ้าประมูลแล้วได้มาระบบจะใส่ตัวเลขให้เองอัตโนมัติ ถ้าไม่ได้แล้วไปใส่ตัวเลขจะเป็นการสร้าง Demand เทียมขึ้นมาแล้วจะทำให้ทีม Forecast ผิดผลาดตั้งแต่ต้น
สรุปการเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้าในแต่ละทวีป เปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือทางการตลาดที่เลือกนำมาใช้ทั้ง 9 ตัว ซึ่งทีมสามารถกำหนดได้ว่าเลือกเครื่องมือตัวไหนมาใช้แข่งขันกับทีมอื่นๆ
Inventory Clearance : เป็นการขายสิยค้าโละสต๊อก จะใช้เมื่อผลิตสินค้ามาแล้วสินค้าขายไม่ได้ จะถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าทำให้เกิดต้นทุนการเก็บรักษา ทำให้ Inventory Cost สูงมากขึ้น ดังนั้นก็ต้องขายโละสต๊อกเพื่อระบาย ระบบจะมีให้ทำการขายได้ เลืิอกทำการขายแต่ละทวีปได้ เช่นต้องการขายที่ทวีปอเมริการ ระบบก็จะถามเลยว่า ต้องการขายกี่ % ของสต๊อกที่มีอยู่ มีให้เลือก 25%, 50%, 75% และ 100%
ถ้าลดราคาขายกำไรก็จะลดลง ** ไม่จำเป็นจริงๆไม่ใช้ **
Factors Affecting Internet Sales
จะมี Factor ที่เกี่ยวข้อง คือ
1) Retail Price : ราคาขาย เหมือนกับ Wholesale
2) Models Offered : รูปแบบรองเท้ากีฬา เหมือนกับ Wholesale
3) Free Shipping : แตกต่างจาก Wholesale คือ Free Shipping เป็นค่าธรรมเนียมในการขนส่ง ระบบจะมีให้เลือก 2 แบบคือ Yes - เราส่งให้ลูกค้าฟรีโดยค่าขนส่งรวมไปกับราคาขายอยู่แล้ว และ No - ลูกค้าเป็นผู้จ่ายค่าขนส่ง
ดังนั้น Free Shipping = Yes จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากกว่า แต่อย่าลืมว่าถ้าเลือก Yes จะมีต้นทุนค่าขนส่งเกิดขึ้น
สรุป
1. พยากรณ์ยอดขายหรือทำนายยอดขาย เพื่อทราบความต้องการลูกค้า
2. เพิ่ม Demand ด้วยการลดราคา และเพิ่มมูลค่าสินค้า
http://surat-mlw6.blogspot.com/2014/11/bus-7017-business-strategy-game-online.htm
BUS 7017 : Business Strategy Game : The Business Strategy Game (bsg-online.com)
DECISION ENTRIES : Branded Sales Forecast
พยากรณ์ยอดขายหรือทำนายยอดขาย เพื่อทราบความต้องการลูกค้าว่าจะต้องผลิตเท่าไรให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า Demand สามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยการเพิ่มคุณค่าและลดราคา แต่ว่าต้องมองกลับมาตัวเอง ว่าตัวเองสามารถที่จะผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าหรือไม่เพราะ resource เรามีจำกัด
Sale Forecast เกี่ยวข้องกับการตลาด ว่าจะใช้เครื่องมือการตลาดตัวไหนมาช่วยดึงยอดขายเรา
การ Forecast จะเป็นข้อมูลที่แต่ละกลุ่มเห็นเฉพาะ ของบริษัทตัวเองเท่านั้นไม่สามารถเห็นของบริษัทอื่นๆ มาดูกันว่าในส่วน Sale Forecast ต้องทราบอะไรบ้าง
Projected Year 11 Performance : ผลประกอบการของบริษัทเราใน Y11 คู่แข่งจะไม่เห็น ในกรอบนี้จะบอกเราได้ว่าบริษัทผลประกอบการไปในทิศทางใด ในปี Y11 และเป็นกี่ % เมื่อเทียบกับ Y10 Forecast ออกมาเป็นบวก ถ้า Process แล้วผลอาจไม่ออกมาตาม Forecast ก็ได้
ตัวชีวัดในเกมส์นี้ประกอบด้วย:
- Earnings Per Share : กำไรต่อหุ้น หรือ EPS [ยิ่งสูงยิ่งดี]
- Return On Equity : ผลตอบแทนส่วนของเจ้าของ หรือ ROE [ยิ่งสูงยิ่งดี]
- Credit Rating : อันดับความน่าเชื่อถือขององค์กร ขึ้นอยู่กับสภาพคล่อง และความสามารถในการทำกำไร ถ้าทำกำไรได้มาก อันดับความน่าเชื่อถือก็จะดีขึ้น
- Image Rating : ภาพลักษณ์องค์กร วัดจากสายตาลูกค้า เป็นอย่างไร
- Stock Price : ราคาหุ้น
Other Measures: เป็นส่วนที่จำเป็นมากจะเป็นตัวบอกสถานะของบริษัทในอนาคตจะเป็นอย่างไร
- Net Revenues : รายได้สุทธิ
- Net Profit : กำไรสุทธิ
- Ending Cash : เงินสดคงเหลือปลายงวด
Sales Forecast ทำการตลาดผ่านอินเตอร์เน็ต
Factors Affecting Wholesale Sales
Sales Forecast ทำการตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย ค้าปลีก ค้าส่ง
ตลาดที่สามารถส่งสินค้าไปขายได้มี 4 ตลาดคือ North America, Europe-Africa, Asia-Pacific และ Latin America สามารถใส่ค่าตัวเลขต่างๆได้ แนะนำให้ใส่ในกรอบสีแดง หรือ Proposed Marketing Effort ส่วนกรอบสีน้ำเงิน เป็นค่าเฉลี่ยอุตสหกรรม หรือ Ind. Avg. ปีต่อไปจะเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับคู่แข่งขันเป็นตัวกำหนด เช่นทุกกลุ่มใช้ราคาเป็นตัวแข่งขันค่า Ind. Avg. ก็จะเปลี่ยนตามราคาทำให้ควบคุมยาก จึงไม่แนะนำให้ใช้กรอกข้อมูล เพื่อกำหนดค่าของบริษัท ฉนั้นช่องขวากรอบน่ำเงินไม่ต้องไปเปลี่ยนค่าตัวเอง เอาไว้ดูเปรียบเทียบกับข้อมูลที่เราจะใส่ตัวเลขในด้านซ้ายกรอบสีแดง เพื่อจะได้รู้ว่าควรจะใส่อะไรทำให้ได้ผลดีที่สุดและเพิ่มยอดขายให้เรา
สิ่งสำคัญที่สุดในหน้า Sale Forecast คือการประมาณการขอดขาย ทำให้เราทราบ demand หรือตัวเลขความต้องการของลูกค้า ในแต่ละทวีปดูจาก Y11 Production Need to Achieve Sales Forecast ตรงนี้ก็จะบอกให้เราทราบว่าความต้องการในแต่ละทวีปกี่คู่ จากข้อมูล ณ เวลานี้ North America ต้องการรองเท้า 1,432 คู่ Europe-Africa ต้องการรองเท้า 1,432 คู่ Asia-Pacific ต้องการรองเท้า 991 คู่ และ Latin America ต้องการรองเท้า 991 คู่ ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกทวีปต้องการรองเท้าเท่ากันขึ้นอยู่กับเราว่าจะโฟกัสที่ตลาดไหนเป็นหลัก ดังนั้นความต้องการเปลี่ยนแปลงไปได้
ความต้องการของลูกค้าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในแต่ละทวีปเปลี่ยนแปลงได้ไหม? ถ้าได้ได้จากอะไร?
ขึ้นอยู่กับ Factors Affecting Wholesale Sales คือปัจจัยที่มีผลต่อยอดขายคือเครื่ิองมือที่เรานำมาใช้เรียกว่าเครื่องมือทางการตลาดมีอยู่ด้วยกัน 9 ตัว คือ
1) Wholesale Price : ราคาขาย เช่น ตลาด North America ปัจจุบันราคาขาย 48.00 ($/pair) ความต้องการเท่ากับ 1,432 pairs
| ราคา ($/pair) 48.00 40.00 50.00 | ความต้องการ(pairs) 1,432 2,168 1,348 | ผลที่ได้ - เพิ่มขึ้น ลดลง |
2) S/Q Rating : Sign & Quality หมายถึงคุณภาพสินค้าในเกมส์นี้จะใช้หน่วยเป็นดาว(stars) คือ 0 - 10 ดาว โดย 10 ดาว หมายถึง premium , 0 ดาวแย่สุด ถ้าจะผลิตสินค้า premium สิ่งที่ตามมาคือต้นทุน (cost of quality) ฉะนั้นต้นทุนก็จะสูงกว่าทีมอื่นๆ ถ้าจะแข่งขันด้วยคุณภาพสินค้ามีคุณภาพสูงขึ้น แต่ต้นทุนก็จะสูงขึ้นด้วย แต่ถ้าเราผลิตสินค้าคุณภาพดีความต้องการของลูกค้าก็จะมากขึ้น ช่อง S/Q Rating : ก็จะให้เราเลือกใส่คุณภาพสินค้าที่ต้องการ
เช่น S/Q Rating จาก 5 ดาวน เป็น 8 ดาว คุณภาพสินค้ามีคุณภาพสูงขึ้น ความต้องการของลูกค้าก็จะมากขึ้น (ตัวเลขขึ้นสีแดงต้องแก้ไข)
3) Models Available : รูปแบบรองเท้ากีฬา ระบบเกมส์กำหนดรูปแบบเริ่มต้นไว้ที่ 200 รูปแบบ สามารถปรับรูปแบบได้ต่ำสุดคือ 50 รูปแบบ และสูงสุดคือ 500 รูปแบบ ถ้ารูปแบบเพิ่มมากขึ้นความต้องการเพิ่มมากขึ้น แต่ Producting Line ก็ต้องมีมากตามซึ่งเป็น Cost ที่จะเกิดขึ้น ต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้นจะสูงกว่าทีมที่ใช้รูปแบบน้อยกว่า
4) Advertising Budget : งบประมาณโฆษณาประชาสัมธ์ โฆษณาผ่านโทรทัศน์หรือสื่อต่างๆ ค่าเริ่มต้น Advertising Budget คือ $7000 ถ้าไม่ลงโฆษณาเลยคือ 0 หรือโฆษณามากสุดคือ $25,000
ถ้าทุ่มงบโฆษณามากจะขายได้มากขึ้นเป็นการสร้าง Brand Awareness ให้ลูกค้า ดังนั้นถ้าเพิ่มงบโฆษณามาก ค่าใช้จ่ายมากขึ้น
5) Rebate Offer : ส่วนลดทางการตลาดต่อสินค้าแต่ละชิ้น หมายถึง การสะสมแต้มแลกของหรือเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าชิ้นต่อไป เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าเรามากขึ้น จากตัวอย่างเกมส์ซื้อรองเท้ากีฬาราคา $48.00 ให้ส่วนลด $3.00 สำหรับในเกมส์นี้สามารถกำหนดค่าส่วนลดทางการตลาดได้ตั้งแต่ $0 ถึง $10 ต่อคู่ ถ้าให้ส่วนลดกับลูกค้ามากขึ้นความต้องการลูกค้าจะมากขึ้นก็จะขายได้มากขึ้น แต่ Margin ก็จะลดลง
6) Retail Outlets : จำนวนหน้าร้านหรือสาขา จำนวนสาขา maximum ระบบเป็นผู้กำหนดมาให้ เราสามารถปรับจำนวนสาขาได้เพียงลดลงเท่านั้น ไม่สามารถปรับให้เพิ่มได้ ถ้าจะปรับให้จำนวนสาขาเพิ่มมาขึ้นทำได้ 2 วิธีคือ
1. ทำกำไรให้เยอะๆ ขายให้ได้เยอะๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือมีกระแสเงินสดมากขึ้นก็ไปขยายสาขาได้
2. เพิ่มงบสนับสนุนร้านค้าปลีกมากขึ้น (Retailer Support) อัดส่วนนี้ไปมากๆจำนวนสาขาก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ฉนั้นงบสนับสนุนร้านค้าปลีกก็เพิ่มจำนวนความต้องการของลูกค้าได้เช่นกัน
7) Retailer Support : งบสนับสนุนร้านค้าปลีก ถ้าพิ่มงบสนับสนุนร้านค้าปลีกมากขึ้น จำนวนความต้องการของลูกค้าได้เช่นกัน ใช้ร่วมกับ Retail Outlets ดังนั้นหาต้องการให้มีสาขาจำนวนมาก เพื่อปิดล้อมคู่แข่ง ต้องทำกำไรให้เยอะๆ และ เพิ่ม Retail Support ให้มากขึ้น
8) Delivery Time : ระยะเวลาในการขนส่งรองเท้ากีฬาให้กับลูกค้า ในเกมส์มีให้เลือกส่ง 4 รูปแบบ คือ ส่งภายใน 1 สัปดาห์ ส่งทางอากาศ (air mail) ถึงลูกค้าเร็วสุด แต่ Expend ค่าขนส่งแพงสุด ถึงมือลูกค้าเร็วพอใจต้องการสินค้ามากขึ้น
ส่งภายใน 2 สัปดาห์ ส่งทางบรรทุก ถึงลูกค้าเร็วรองลงมา แต่ Expend ถูกกว่าส่งทางอากาศ
ส่งภายใน 3 สัปดาห์ ส่งทางรถไฟ ถึงลูกค้าเร็วรองลงมา แต่ Expend ถูกกว่าส่งทางรถบรรทุก
ส่งภายใน 4 สัปดาห์ ส่งทางเรือ ถึงลูกค้าช้าสุด แต่ Expend ค่าขนส่งต่ำสุด
9) Celebrity Appeal : เซเลบ ** อย่าไปใส่ตัวเลขใดๆ (0) ** เพราะถ้าใส่ตัวเลขลงไปเป็นการฆ่าทีมตัวเอง Celebrity Appeal ได้มาจากการประมูลในเมนู Bids for Celebrity Endorsement Contracts ถ้าประมูลแล้วได้มาระบบจะใส่ตัวเลขให้เองอัตโนมัติ ถ้าไม่ได้แล้วไปใส่ตัวเลขจะเป็นการสร้าง Demand เทียมขึ้นมาแล้วจะทำให้ทีม Forecast ผิดผลาดตั้งแต่ต้น
สรุปการเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้าในแต่ละทวีป เปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือทางการตลาดที่เลือกนำมาใช้ทั้ง 9 ตัว ซึ่งทีมสามารถกำหนดได้ว่าเลือกเครื่องมือตัวไหนมาใช้แข่งขันกับทีมอื่นๆ
Inventory Clearance : เป็นการขายสิยค้าโละสต๊อก จะใช้เมื่อผลิตสินค้ามาแล้วสินค้าขายไม่ได้ จะถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าทำให้เกิดต้นทุนการเก็บรักษา ทำให้ Inventory Cost สูงมากขึ้น ดังนั้นก็ต้องขายโละสต๊อกเพื่อระบาย ระบบจะมีให้ทำการขายได้ เลืิอกทำการขายแต่ละทวีปได้ เช่นต้องการขายที่ทวีปอเมริการ ระบบก็จะถามเลยว่า ต้องการขายกี่ % ของสต๊อกที่มีอยู่ มีให้เลือก 25%, 50%, 75% และ 100%
ถ้าลดราคาขายกำไรก็จะลดลง ** ไม่จำเป็นจริงๆไม่ใช้ **
Factors Affecting Internet Sales
จะมี Factor ที่เกี่ยวข้อง คือ
1) Retail Price : ราคาขาย เหมือนกับ Wholesale
2) Models Offered : รูปแบบรองเท้ากีฬา เหมือนกับ Wholesale
3) Free Shipping : แตกต่างจาก Wholesale คือ Free Shipping เป็นค่าธรรมเนียมในการขนส่ง ระบบจะมีให้เลือก 2 แบบคือ Yes - เราส่งให้ลูกค้าฟรีโดยค่าขนส่งรวมไปกับราคาขายอยู่แล้ว และ No - ลูกค้าเป็นผู้จ่ายค่าขนส่ง
ดังนั้น Free Shipping = Yes จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากกว่า แต่อย่าลืมว่าถ้าเลือก Yes จะมีต้นทุนค่าขนส่งเกิดขึ้น
สรุป
1. พยากรณ์ยอดขายหรือทำนายยอดขาย เพื่อทราบความต้องการลูกค้า
2. เพิ่ม Demand ด้วยการลดราคา และเพิ่มมูลค่าสินค้า
http://surat-mlw6.blogspot.com/2014/11/bus-7017-business-strategy-game-online.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น